วันศุกร์ที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2557

Black Hawk Down 2 วีรบุรุษแห่งสงครามโมกาดิชู



หากคุณเป็นคอหนังสงครามจริงๆละก็เป็นไปไม่ได้เลย ที่คุณจะไม่รู้จักหนังเรื่องนี้ ผู้กำกับ Ridley scott
ที่ทำผลงานไว้กับ GLADIATOR สำเร็จอย่างงดงาม เช่นเดียวกันกับเรื่องนี้
ในภาพยนต์เรื่องนี้กล่าวถึงสมรภูมิ อันดุเดือดอีกแห่งหนึ่งการรบภายใต้ปฎิบัติการโกธิคเซอร์เพนท์
ปฎิบัติการที่ต้องการจับขุนศึกที่ภักดีของ โมฮัมมัด ฟาราห์ ไอดิด ทหารอเมริกันไม่เพียงต้องต่อสู้
กับกองทัพทหารชาวบ้านที่ภักดีของไอดิดเท่านั้น แต่ยังต้องสู้กับใจตนเองทำให้ปฎิบัติการณ์ในครั้งนี้มีผู้ได้รับเหรียญกล้าหาญ
กองกำลังร่วมเรนเจอร์ของสหรัฐฯ ถูกจัดตั้งขึ้นเฉพาะยุทธการครั้งนี้ ประกอบด้วย กองกำลังปฏิบัติการณ์พิเศษเดลตา(Delta Force) มีหน้าที่บุกไปจับ เป้าหมายทั้ง 2คน, หน่วยรบเนวีซีล ทีม 6 (Navy SEAL Team Six) และกองพันเรนเจอร์ที่ 3 สังกัดกรมเรนเจอร์ที่ 75 (3rd Ranger Battalion, 75th Ranger Regiment) ของกองทัพบกสหรัฐฯ มีหน้าที่ คุ้นกัน 4 มุมตึกของเป้าหมายโดยการจู่โจม ลงมาจากจาก เฮลิคอปเตอร์ที่ลอยอยู่เหนือพื้นดิน โดยใช้การลงสู่พื้นแบบ ฟาสต์ โรป Fast Ropeส่วนการสนับสนุนทางอากาศนั้น กองร้อยการบินปฏิบัติการณ์พิเศษที่ 160 ("The Night Stalkers") เป็นผู้รับผิดชอบ และสมาชิกของพลร่มกู้ภัยและทหารควบคุมการบินของกองทัพอากาศสหรัฐฯ เป็นผู้ดำเนินการขนส่งกองกำลังจากที่มั่นไปยังชานเมืองโมกาดิชูเพื่อทำการจับกุมบรรดาผู้นำของทหารบ้านที่ภักดีต่อไอดิด
ระหหว่างการปฎิบัติการณ์ในครั้งนี้ แบล็คฮอล์ค ของทางสหรัฐ โดนยิงร่วงไป 2 ลำ โดยปืนยิงจรวด RPG ของทหารบ้าน ขบวนรถที่จะใช้เพื่อ ขน เป้าหมายที่จับกุมได้กลับนั้น เกิด ความผิดพลาดในการเดินทาง เพราะ ถูกฝูงชน เข้า ปะทะโดยใช้ จรวดRPG-7 และจากการซุ่มยิงจากตึกทั้ง 2 ข้าง ขณะลำเลียง
ทหารที่ติดอยู่ที่จุดตกบางส่วนสามารถอพยพกลับมายังจุดนัดพบและใช้เป็นฐานที่มั่นชั่วคราวได้ ในขณะที่คนอื่นๆ ติดอยู่ตรงจุดตก ฮ. และขาดการติดต่อกับกองกำลังส่วนอื่นๆ ทำให้เกิดการปะทะระหว่างทหารสหรัฐฯ กับทหารบ้านของไอดิดตลอดทั้งคืนวันที่ 3
กองกำลังนานาชาติสามารถเข้าไปถึงจุดตก ฮ. จุดแรกและพาทหารที่ติดอยู่ออกมาได้ ในขณะที่จุดตกที่สองถูกยึดครองโดยทหารบ้านโซมาเลีย และนักบินเฮลิคอปเตอร์ MH-60 แบล็คฮอว์คของสหรัฐฯ ที่ถูกยิงตกรหัสเรียกขาน super 64ไมค์ ดูแรนท์ ผู้รอดชีวิตคนเดียวในจุดตก พลรบเดลต้า 2 นายคือ ชูการ์ด
และกอร์ดอน ได้ขออณุญาติที่จะลงไปช่วยสหายศึกของเค้าทั้งที่มีกันเพียง 2 คนเท่านั้น นายพลแกริสัน(ผู้บังคับบัญชา)อณุญาติให้ทั้งสองตัดสินใจเอาเองเพราะเป็นการเสี่ยงมากที่นักรบเพียงสองคน จะเข้าไปสู้กับทหารชาวบ้านนับร้อย แต่ด้วยความกล้าหาญทั้งสองตัดสินใจที่จะลงไปช่วยสหายร่วมรบ
น้ำน้อยย่อมแพ้ไฟ หลังจากที่ทั้งสองลงไปเค้าได้นำดูแรนต์ของจากซากเครื่องไปอยู่จุดปลอดภัยใกล้เคียง ซูการ์ดและกอร์ดอนออกไปทำแนวต้านทานเอาไว้ทั้งสองสู้พวกชาวบ้านจนเหลือกระสุนลูกสุดท้ายก็ว่าได้และต้องจบชีวิตลงด้วยคมกระสุนจากทหารชาวบ้านจำนวนมากที่รุมล้อมเข้ามานับร้อยคน
แต่ที่สร้างความเจ็บแค้นให้ทหารอเมริกันมากที่สุดคือ พวกทหารรุมถอดเสื้อทั้งสองแล้วเอาศพไปประจารณ์ศพเละเทะไม่มีชิ้นดี หลังจากจบศึกครั้งนี้ซูการ์ดและกอร์ดอนได้รับเหรียญกล้าหาญสูงสุดเพื่อเป็นเกียรติ์แก่วงศ์ตระกูล เนื่องมาจากความกล้าหาญไม่กลัวตายของทั้งสอง แม้จะมีกันแค่ 2 คน สู้กับทหารนับร้อย และเป็นนักรบสองรายแรกที่ได้รับเหรียญกล้าหาญสูงสุดหลังจากสงครามเวียดนาม
ภาพจากหนังนะครับ

เรียบเรียงและหาข้อมูลเองนะครับหากเอาไปใช้โปรดใส่เครดิต
สำหรับบทความนี้ขออุทิศให้แก่ ซูการ์ดและกอร์ดอน และทหารทุกนายที่พลีชีพ
ในสงครามโมกาดิชูนี้
เจอกันใหม่ในบทความหน้า

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น