ของโลก
แม่รี่แอน นิโคล แม้ว่าการฆ่าผู้หญิงคนนึงจะไม่ใช่เรื่องที่แปลกอะไรเลย แต่ที่ทำให้ช็อกนั่นก็คือ
สภาพศพของเธอนั้นเละไม่มีชิ้นดีถูกตัดนำเอาอวัยวะบางส่วนออกไป ตำรวจทางลอนดอน
พยายามที่จะตามหาตัวของฆาตกร แต่ก็ทำไม่สำเร็จชื่อของ เหยื่อรายแลกก็เริ่มที่จะเลือนหายไป
ผ่านไปไม่ถึง 2 สัปดาห์ ในวันที่ 8 กันยายน ปีเดียวกัน ศพของเหยื่อรายที่ 2 ก็ได้ออกมาให้ตำรวจ
ได้เห็น ศพรายที่ 2 มีชือว่า แอนนี่ แชปแมน เธอ ถูกปาดคอและถูกตัดมดลูกออกไป ที่น่าแปลก
อีกอย่างก็คือ เหยื่อทั้งสองราย เป็นโสเภณีด้วยกันทั้งสิ้น คดีนี้เป็นที่สะพรึงไปทั่วย่าน
ไวต์ชาเปล ในลอนดอน
หญิงโสเภณีในย่าน ไวต์ชาเปล
คดีหญิงโสเภณีถูกฆ่าเริ่มเป็นที่สนใจของตำรวจและสื่อมวลชนมากขึ้น แต่ตำรวจก็ยังไม่มีเบาะแสใดๆ
เพราะคนร้ายไม่ทิ้งหลักฐานอะไรไว้เลย(ไม่แน่ว่าถ้าเกิดในยุคนี้เทคโนโลยีก้าวไกลอาจจะจับไปได้แล้วก็ได้) ฉายาของฆาตกรตอนนี้คือ "ผ้ากันเปื้อนหนัง" มีการตั้งข้อสงสัยกันว่าฆาตกรน่าจะเป็น
แพทย์ที่ต้องการชิ้นส่วนของมนุษย์เพื่อที่จะนำไปศึกษา
3 สัปดาห์ต่อมา วันที่ 25 กันยายน ปีเดียวกันมีจดหมายส่งถึงสำนักงานเซ็น ทรัล(สำนักข่าวของ ลอนดอน) ลงนาม
แจ็ค เดอะ ริปเปอร์
ถัดจากนั้นเพียง 5 วัน ในวันที่ 30 กันยายน ปีเดียวกัน เหยื่อรายที่ 3 ก็โผล่ออกมาให้เห็นกันอีก
อลิซาเบธ สไตรด์ ออกจากผับแห่งหนึ่งเพื่อจะกลับบ้าน แต่เธอกลับไม่ถึง ศพของเธอถูกพบใน
วันถัดมา ศพของเธอถูกปาดคออย่างเดียว คาดกันว่าฆาตกรน่าจะถูกขัดจังหวะ เช่นอาจจะมีคนเข้ามาเห็น จึงไม่ได้ทำการชำแหละศพอย่างที่เคยทำ
1 ตุลาคมปีเดียวกัน ไปรษณียบัตร "แจ็ค จอม ซ่า" ส่งถึงสำนักข่าวเดิม (กวนตีนนะเนี่ย)
30 กันยายนปีเดียวกัน พบเหยื่อรายที่ 3และ4 เกิดในเวลาไล่เลี่ยกัน
ศพของแคทเทอรีน เอดโดวส์ 1 ในเหยื่อของ แจ็ค
ตำรวจรู้สึกกดดันกันอย่างหนัก ที่ไม่สามารถตามหาตัวฆาตกรมาได้ ไม่นานนักเหยื่อรายต่อมาก็มาถึง
(คิดว่าจะเป็นรายสุดท้าย)ศพนี้ถือเป็นศพที่ถูกฆาตกรรมและทารุณมากๆ เธอคือ แมรี่ จีน เคลลี่วัยเพียง
25 ปี สาวไอริชหน้าตาดีคนหนึ่ง สภาพศพของเธอนอนกลางขาอยู่บนเตียง ผิวหนังโดนถลก มือข้างหนึ่งถูกจับให้ล้วงลงไปในท้องที่โดนควักตับไตไส้พุงออก ในห้องมีรอยเลือดกระเด็นไปทั่ว น่าสลดกว่านั้น
ก็คือ ขณะนั้นเคลลี่กำลังตั้งครรณ์
ศพของ แมรี่ จีน เคลลี่
โดยสุดท้ายคดีก็ถูกปิดลงในปี ค.ศ.1892 โดยไม่สามารถหาตัวฆาตกรได้
ปัจจุบันมีกลุ่มคนที่หลงไหลใน แจ็ค เดอะ ริปเปอร์ จนมีกลุ่มคนที่เรียกตัวเองว่า นักริปเปอร์วิทยาเลยทีเดียว
นี่ละครับ คดีที่จะเป็นปริศนาของโลกไปอีกนานหรืออาจจะตลอดไปก็ได้
สำหรับบทความนี้ขอขอบคุณที่เข้ามารับชม
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Wikipedia
จัดและเรียบเรียงข้อมูลโดย KhaotomMud GURU ถ้าเอาไปใช้ให้เครดิตด้วยนะค้าบบบ
เจอกันใหม่บทความหน้าสวัดดีครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น